เรื่องเล่าลี้ลับ เรือนหอคนตาย (เรื่องราวสุดสะพรึง ที่เกิดขึ้นจริง!)
![]() |
เรือนหอคนตาย |
ว่ากันด้วยเรื่องสยองขวัญ…
ที่หลายคนอยากรู้ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง “เรือนหอคนตาย”
ที่เป็นตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง “ตีสาม”
ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
และทางครอบครัวทำใจไม่ได้เลยอยากเก็บศพเอาไว้… สำหรับพล็อตเรื่องนี้ ใครหลาย ๆ
คนคงเคยได้ยินมากนักต่อนักแล้ว บ้างก็ว่าบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่เมืองเอก
บ้างก็ว่าตั้งอยู่ที่พุทธมณฑล สาย 2 บ้างก็ว่าอยู่แถวสุวินทวงศ์
บ้างก็ว่าอยู่ที่แถวหนองจอก เอาเป็นว่า
คงจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นหลายแห่งเลยทีเดียว แล้วแต่ละที่ก็คงสยองไม่แพ้กันโดยคุณมาร์ค
เปิดเผยถึงประสบการณ์ตรง ๆ ที่เจอแบบจะ ๆ ให้ฟังว่า… ตอนนั้นตนเพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ
ใหม่ ๆ มารับจ้างขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวพุทธมณฑล
ซึ่งตนก็รับป้าแม่บ้านคนหนึ่งมาส่งยังบ้านหลังหรูอีกซอยหนึ่งเป็นประจำ
รับส่งได้สักพักตนก็เลยบอกกับคุณป้าคนนั้นว่า สนใจเป็นลูกค้าประจำไหม
จะได้มารับมาส่งให้ตลอด ซึ่งคุณป้าก็ตกลงสำหรับบ้านดังกล่าว
เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ร่มรื่นมาก มีต้นไม้เต็มไปหมด ส่วนป้าแม่บ้านก็ให้ตนไปรับ-ส่ง
ทุกวันพระ ซึ่งตนก็ไม่ถามไถ่ถึงเหตุผล
รู้แค่เพียงว่าบ้านหลังนี้มีชายหญิงคู่หนึ่งอาศัยอยู่ เพราะเขาไปรับ-ส่ง ป้าแกทีไร
ก็จะเห็นเขายืนมองอยู่ตรงหน้าต่างเสมอ ๆต่อมาเมื่อไปนั่งคุยกับเพื่อนวินมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน
ก็ถามไถ่กันตามปกติว่า แม่บ้านลูกค้าประจำของตนเนี่ย ตนไปส่งเขาที่ไหนบ้าง
เมื่อตนบอกไปว่าส่งที่บ้านหรูหลังดังกล่าว เพื่อน ๆ ก็บอกว่าบ้านหลังนี้น่ะ
เขาเก็บศพไว้บนบ้าน ส่วนตนก็ไม่เชื่อเพราะบ้านหลังนั้นเหมือนบ้านที่มีคนอยู่ปกติ
แถมยังมีแม่บ้านเข้า-ออก ไปทำความสะอาดอีกด้วยจนกระทั่งวันหนึ่ง…
แม่บ้านวานให้ตนช่วยยกของตรงบริเวณชั้นล่างออกมาหน่อย
ขอเวลาตนเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น ตนก็เลยเข้าไปช่วย พอเข้าไปในบ้านหลังนั้น
ก็พบเฟอร์นิเจอร์หรูหรามากมาย ดูสะอาดเรียบร้อยเหมือนมีคนอยู่ตลอดเวลา
แต่แล้วแม่บ้านก็บอกให้ตนช่วยยกของขึ้นชั้นสอง
ซึ่งเมื่อยกเสร็จแม่บ้านก็ลงไปหยิบของ โดยบอกกับตนว่า รออยู่ข้างบนแป็บนึงนะ
และอย่าเปิดห้อง ๆ นี้ เพราะเป็นห้องของเจ้านายพอแม่บ้านลงไปปุ๊บ
คำที่เพื่อนวินมอเตอร์ไซค์บอกไว้ว่า “บ้านนี้เก็บศพไว้ในบ้าน” ก็ผุดขึ้นมาในหัวปั๊บ
ตนก็เลยจะเดินไปยังห้อง ๆ นั้น เพราะอยากพิสูจน์ให้เพื่อน ๆ
รู้ว่าบ้านนี้มันไม่มีอะไร เป็นเพียงบ้านคนธรรมดา แต่พอตนกำลังจะเดินไป
ก็เหลือบไปเห็นผู้หญิง-ผู้ชาย คู่หนึ่ง เดินอยู่บริเวณห้องโถงข้าง ๆ
และหายเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ต่อมาเมื่อตนเห็นว่าผู้หญิง-ผู้ชายคู่นั้นเดินเข้าไปแล้ว
ก็ตรงไปยังห้องที่แม่บ้านห้ามเข้าทันทีเมื่อตนบิดลูกบิดดัง…แกร๊ก
และผลักประตูเข้าไป ก็พบว่าในห้องนั้นมีเตียงนอนขนาดใหญ่ และตู้เสื้อผ้า
เหมือนห้องนอนปกติ แต่เมื่อตนกำลังปิดประตู จู่ ๆ หางตาซ้ายตนก็เหลือบไปเจอ
โลงแก้ว…ข้างในบรรจุร่างไร้ลมหายใจของสองชายหญิงที่ตนเห็นเป็นประจำตรงหน้าต่างดังกล่าว
ซึ่งศพอยู่ในชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว นอนอยู่ข้าง ๆ กันในโลงนั้น… ตนตกใจมาก
แต่ก็โวยวายไม่ได้ เพราะป้าแม่บ้านเตือนแล้วว่าห้ามเปิด ตนจึงค่อย ๆ เดินลงบันไดไป
…ด้วยอาการช็อก และกลัวขั้นสุด ขาของตน จู่ ๆ ก็สั่นผับ ๆ ยืนไม่ไหว
แทบจะร่วงตกบันไดเลยทีเดียว แล้วพอตนหันไปที่ประตูห้องนั้น ก็เห็นผู้หญิง
ผู้ชายดังกล่าว ยืนอยู่หน้าห้อง ในสภาพตัวตัวซีด ๆ ตนจึงรีบก้าวลงไปอีกขั้น
พอหันมาอีกครั้ง ก็เจอสองคนนั้นยืนอยู่ตรงทางลงบันได คุณมาร์ค เล่าต่อไปว่า คราวนี้ตนก็สติกระเจิงวิ่งลงบันไดทันที
และสวนกับป้าแม่บ้านอย่างไว แต่แกกลับจับแขนตนเอาไว้ทัน แล้วก็ดุตนว่า
บอกว่าแล้วว่าเปิด ๆ เจอศพแล้วเป็นอย่างไรล่ะ แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ
ซึ่งตนก็พยักหน้า ๆ แต่ก็บอกว่า ป้าไปคุยกันนอกบ้านดีกว่า ตนอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วเมื่อออกมานอกบ้าน
ตนก็บอกป้าเลยว่า ตนไม่ได้เจอแค่ศพนะ แต่ตนเจอผีด้วย
เป็นผีหญิงชายที่ตนเคยเห็นตอนมาส่งป้าทุครั้ง แล้วถามป้าต่อว่า
ทำไมเขาถึงเก็บศพไว้ในบ้าน ทำไมไม่ประกอบพิธีทางศาสนา
ป้าแม่บ้านก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่า…ผัวเมียคู่นี้แต่งงานกันใหม่ ๆ และบ้านหลังนี้ก็เป็นเรือนหอของพวกเขา
จากนั้นเขาก็ไปฮันนีมูนกัน แต่ขากลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ซึ่งญาติ ๆ
ของทั้งคู่ทำใจไม่ได้ อีกทั้งครอบครัวฝ่ายชายยังฝันว่า ผู้ชายไม่อยากไปไหน
อยากอยู่บ้านหลังนี้ ถึงเวลาก็จะมีคนเข้ามาฉีดศพ มีแม่บ้านผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดแทบทุกวัน
ส่วนตนมีหน้าที่เอากับข้าวมาให้ทุกวันพระเมื่อคุณมาร์คถามว่า
ค่าจ้างของป้าแม่บ้านได้เท่าไร ป้าแกตอบว่าได้ไม่กี่ตังค์
เพราะป้าเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้
และมาช่วยเพราะเจ้านายเคยมีบุญคุณกับป้าเท่านั้น…. แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ
เคยได้ยินเรื่องเก็บศพไว้ในบ้าน หรือเรือนหอคนตายที่ไหนบ้าง
แชร์ประสบการณ์สุดสยองบอกต่อกันได้นะ